สมุนไพร “ถั่งเช่า” ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดหรือราชาของสมุนไพรทั้งหลาย ซึ่งเป็นที่รู้จักและนิยมกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ด้วยสรรพคุณที่โดดเด่นทางยาและสารต่างๆ ที่ล้วนแต่มีประโยชน์กับร่างกายมากมาย อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรที่หายากและมีราคาแพงมากอีกด้วย

ถั่งเช่าคืออะไร
ถั่งเช่าหรือตังถั่งเช่ามีความหมายว่า “หญ้าหนอน” เกิดจากการที่หนอนผีเสื้อในแถบที่ราบสูงทิเบตจำศีลอยู่ใต้ดินในฤดูหนาว ได้ถูกสปอร์ของเห็ด Ophiocordyceps มาอาศัยเป็นปรสิตอยู่ที่ส่วนหัวของหนอน และได้สร้างเส้นใยออกมาทางส่วนหัวของหนอนจนเติบโตขึ้นมาในฤดูร้อน ซึ่งมีลักษณะเหมือนตัวหนอนตัวเล็กๆ และมีต้นเห็ดหรือหญ้าขึ้นอยู่บนหัว จนเป็นที่มาของคำว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอนฤดูร้อนเป็นหญ้า” พบได้มากที่บางมณฑลในทิเบต เทือกเขาหิมาลัย เนปาล และภูฏาน
ประโยชน์ของถั่งเช่า
มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรทางยาโดยช่วยป้องกันและรักษาโรค ทุกส่วนของถั่งเช่านั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากประกอบไปด้วยโปรตีน กรดอะมิโน วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี12 วิตามินอี วิตามินเค สารคอร์ไซปิน กรดคอร์ไดเซปิก และสารสเตอรอล เป็นต้น โดยจะผลิตออกมาในรูปแบบของชาและยาชนิดเม็ดหรือน้ำ
- เป็นยาบำรุงกำลัง นำถั่งเช่าไปผสมกับยาจีนเพื่อใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตที่ช่วยให้ไตกลับมาทำงานได้ดีขึ้น เสริมระบบภูมิคุ้มกัน และบรรเทาอาการอ่อนเพลีย
- ช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ทั่วร่างกาย ช่วยบำรุงเลือด เสริมสมรรถภาพทางเพศ เพิ่มจำนวนอสุจิและบำรุงให้อสุจิแข็งแรง ทำให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติ รวมทั้งเพิ่มออกซิเจนให้หัวใจอีกด้วย
- ลดไขมันและน้ำตาลในเส้นเลือด ช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอลและไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ได้ ซึ่งถั่งเช่าจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดน้ำตาลที่จะเป็นผลดีกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยสามารถควบคุมน้ำตาลได้ถึง 95 %
- ลดผลกระทบจากสารพิษ ช่วยให้ตับแข็งแรง ป้องกันการเกิดพังพืด และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ จึงทำให้แลดูแก่ช้า
- มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ยับยั้งเซลล์มะเร็งในระยะลุกลามไม่ให้แพร่กระจาย ลดอาการข้างเคียง อาการอักเสบ และอาการอ่อนเพลียหลังจากการรักษาด้วยเคมีบำบัด

วิธีใช้ถั่งเช่าเป็นสมุนไพรทางยา
ถั่งเช่าที่นิยมนำมาใช้เป็นสมุนไพรทางยามี 2 สายพันธุ์ โดยขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการรักษาดังนี้
- ถั่งเช่าทิเบต (ถั่งเช่าแท้) ปริมาณการบริโภคคือไม่ควรเกินวันละ 8 กรัม/คน/วัน
- ถั่งเช่าสีทอง (เพาะเลี้ยง) ปริมาณการบริโภคคือไม่เกินวันละ 3 กรัม/คน/วัน
- กรณีที่ 1 แคปซูล บรรจุ 500 มิลลิกรัม เช่น ต้องการบำรุงร่างกายก็ควรรับประทานแค่เพียงวันละ 2 แคปซูล หากมีโรคประจำตัวให้รับประทาน 4 แคปซูล หรือถ้าเป็นโรคที่รุนแรงให้รับประทาน 6 แคปซูล
- กรณีที่เป็นดอกชนิดใช้ชง ก็ควรใช้ปริมาณไม่เกิน 1 กรัม/คน/ วัน หากต้องการรับประทานร่วมกันหลายคน ให้ชงไม่เกิน 3 กรัม
- ทั้งนี้การรับประทานถั่งเช่าแบบแคปซูลหรือแบบชง ต้องระมัดระวังการบริโภคไม่เกินวันละ 3 กรัม/คน/วัน และผลลัพธ์ที่ได้หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลอีกด้วย
ผลข้างเคียงของการใช้ถั่งเช่า
- มีฤทธิ์เสริมกับยาปฏิชีวนะที่อาจให้ผลมากเกินไป เพราะถั่งเช่าจะมีฤทธิ์ช่วยลดน้ำตาลในเส้นเลือด อย่างเช่นผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือโรคความดันโลหิตสูง อาจทำให้น้ำตาลลดมากเกินไปจนเป็นอันตรายได้
- ผู้ป่วยที่กำลังได้รับยาป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด และผู้ที่กำลังเป็นแผลขนาดใหญ่ไม่ควรรับประทานถั่งเช่า เพราะมีฤทธิ์ทำให้เลือดแข็งตัวช้าและอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงได้
- ถั่งเช่าก็คือเห็ดที่เจริญเติบโตในตัวหนอน เพราะฉะนั้นผู้ที่มีอาการแพ้เห็ดไม่ควรรับประทานถั่งเช่า เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้

การรับประทานถั่งเช่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการบรรเทาอาการของโรค อีกทั้งยังจัดว่าเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์แรงด้วยเช่นกัน ดังนั้นการใช้สมุนไพรชนิดนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสูด ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อป้องกันผลเสียหรืออาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายได้
รับผลิต อาหารเสริมสูตรสมุนไพรถั่งเช่าจากประเทศเกาหลี
HiSeoul Cosmetics โรงงานผลิตอาหารเสริมจากประเทศเกาหลี โดยเภสัชและนักวิจัยที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ผลิตด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย วัตถุดิบจากประเทศเกาหลีใต้ มีสูตรให้เลือกมากกว่า 100 สูตร ใครอยากผลิตอาหารเสริมจากประเทศเกาหลี สร้างแบรนด์อาหารเสริมราคาไม่แพงให้เราดูแลสิคะ
ติดต่อเรา:
LINE : @hiseoulcosmetics
โทร : 062-806-3848
Email : [email protected]
Facebook : https://www.facebook.com/hiseoulcosmetics