คนรุ่นใหม่แทบทุกคนมีความฝันอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง และหลายคนอยากเป็นผู้ประกอบการแทบจะทันทีที่เรียนจบ แต่บันไดสู่การเป็นผู้ประกอบการนั้นไม่ง่าย และต้องอาศัยการเตรียมตัวล่วงหน้ามาอย่างดี และแม้ เงินลงทุน เป็นสิ่งสำคัญ แต่เชื่อหรือไม่ว่า เงินลงทุน ไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในการทำธุรกิจ

1.ต้องรู้ก่อนว่าทำธุรกิจนั้นไปเพื่ออะไร
‘อยากทำอะไร’ อาจเป็นเพียง ‘สิ่งที่คุณคิดไปเองว่ามันดี’ เช่น คุณอาจชอบดื่มกาแฟจึงอยากเปิดร้านกาแฟ คุณอาจรู้สึกว่าตัวเองชอบซื้อเสื้อผ้าจึงอยากเปิดร้านขายเสื้อ, หรือแม้กระทั่งอยากทำแบรนด์เครื่องสำอาง เพียงเพราะคิดว่ามันรวยเร็ว! โดยที่คุณไม่เคยมี ข้อมูล ความรู้ และ ข้อเท็จจริงใด ๆ เกี่ยวกับธุรกิจนั้นเลย นี่คือสิ่งที่อันตรายมากสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นนายตัวเอง
คุณต้องถามตัวเองว่า ‘Why’ หรือ ‘ทำไม’ จึงอยากทำธุรกิจนี้
- ธุรกิจและสินค้าของคุณ มีประโยชน์อย่างไรต่อลูกค้า
- ธุรกิจและสินค้าของคุณ แก้ปัญหาอะไรให้ตลาด
- ธุรกิจและสินค้าของคุณ สร้างผลกระทบทางบวกอย่างไรต่อสังคม
- ธุรกิจและสินค้าของคุณ จะเป็นอย่างไรในอีก 5 – 10 ปีข้างหน้า
- และทำไม ลูกค้าต้องซื้อสินค้าจากคุณ
สรุป จงทำธุรกิจใด ๆ ไม่ใช่เพราะสักแต่เพราะว่าตัวเองอยากทำ แต่ทำโดยเอา ลูกค้าเป็นตัวตั้ง ว่ามันจะไปช่วยแก้ปัญหาอะไรให้ตลาดนั้น ๆ เป็นหลัก
2.ต้องรู้ว่าตัวเองถนัดอะไร
สิ่งที่คุณชอบ กับ สิ่งที่คุณถนัด (หรือเชี่ยวชาญ) เป็นคนละเรื่องกัน คุณอาจชอบกินของอร่อย แต่คุณอาจไม่ใช่นักทำอาหารที่อร่อย แต่ถ้าหากคุณเป็นนักนำเสนอที่ พูด หรือ เขียน ให้อาหารดูน่าอร่อย นั่นคือ ความเชียวชาญของคุณ
ความเชี่ยวชาญมีผลต่อการ เลือกธุรกิจ และ การกำหนดหน้าที่หลัก ของคุณในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ เพราะในช่วงเริ่มต้น คุณอาจต้องทำหลายหน้าที่ภายในกิจการด้วยตนเอง และหากกิจการนั้นมีสิ่งที่คุณทำไม่เป็นเอาเสียเลยจนต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาทำให้ นอกจากจะมีต้นทุนสูงแล้ว ยังเป็นการฝากอนาคตธุรกิจไว้ในมือคนอื่นมากเกินไป
กลับมาที่ตัวอย่าง : หากคุณ พูด เขียน และ นำเสนอ อาหารให้ดูน่าอร่อย อาจเป็นไปได้ว่าคุณมีความเชี่ยวชาญด้านการสื่อสารการตลาด คุณเริ่มต้นธุรกิจเล็ก ๆ โดยการรับให้บริการทำสื่อสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารอื่น ๆ สร้างเว็บไซต์ หรือ ช่องยูทูป ที่พูดเรื่องอาหาร และมีรายได้จากการลงโฆษณา และต่อยอดไปสู่การขาย วัตถุดิบ และ เครื่องประกอบอาหาร
3.พาตัวเองไปอยู่ในระบบธุรกิจจริงๆ
การทำธุรกิจมีความซับซ้อนกว่าที่หลายคนเข้าใจ การมีไฟ มีฝัน หรือแม้แต่มีทุน ไม่สามารถทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้หากปราศจากทักษะและประสบการณ์ในการ บริหารคน บริหารการเงิน และความเข้าใจกระบวนการทำงานแบบองค์กร
คุณจำเป็นต้องพาตัวเองเข้าไปอยู่ในระบบธุรกิจจริง และวิธีที่คุณจะเรียนรู้ธุรกิจจริงได้ดีที่สุด คือ ที่งานประจำ
หากคุณสงสัยว่า จำเป็นต้องทำงานในบริษัทที่เกี่ยวกับธุรกิจที่คุณอยากทำหรือไม่? คำตอบ คือ ถ้าได้ก็ดี แต่ก็ไม่จำเป็น เพราะสิ่งที่คุณต้องการเรียนรู้ คือ ระบบการบริหารงานตั้งแต่ภาค Operation, Office ไปจนถึงระดับ Management เพื่อให้เข้าใจโครงสร้างอย่างทะลุปรุโปร่ง
4.พาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
‘คุณคือค่าเฉลี่ยของคน 5 คนที่คบด้วย’ ประโยคสุดคลาสสิกของ Jim Rohn นั้นมีมูลความจริง หากวันนี้คุณอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่พากันลงสู่อบายมุข ก็เป็นการยากที่คุณจะใช้ชีวิตโดยไม่ไปกระทบกับอบายมุข ฉะนั้นคุณต้องจูนคลื่นชีวิตใหม่และย้ายตัวเองไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่มีเป้าหมายคล้ายกัน
ถึงจุดนี้บางคนอาจสงสัยว่าเมื่อเป็นคนรุ่นใหม่ อายุน้อย ไม่รู้จักใคร และไม่มีคอนเนคชั่น จะพาตัวเองไปหาคนเก่ง ๆ อย่างไร ช่องทางเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดสำหรับคุณ คือ งานสัมมนา
งานสัมมนา คือ สถานที่รวมตัวของยอดขุนพล คนเก่ง และนักธุรกิจ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากมีคุณลักษณะหนึ่งที่คล้ายกัน คือ รักการเรียนรู้ พวกเขาจึงมักจัดเวลาในแต่ละเดือนไปเข้าคอร์สอบรมและสัมมนาต่าง ๆ โดยนักธุรกิจบางคนมียอดขายในกิจการปีละหลายร้อยล้านบาทก็ยังไปเข้าสัมมนากันเป็นปกติ
5.เริ่มทำธุรกิจเล็กๆควบคู่กับงานประจำ
คนรุ่นใหม่ควรระมัดระวังอารมณ์มั่นใจเกินเหตุโดยการกระโดดมาทุ่มทำธุรกิจเต็มตัวอย่างกะทันหัน โดยที่คุณสมบัติการเป็น ผู้ประกอบการ ในตัวคุณยังไม่สุกงอม
คุณควรเอาไอเดียที่มีมาเริ่มต้นทำธุรกิจเล็ก ๆ คู่กับงานประจำ เพื่อเป็นการทดลองว่าไอเดียของคุณมีตลาดรองรับ และเพื่อให้มีกระแสเงินสดหมุนเวียนใช้จ่ายในระหว่างฟักตัว เพราะในโลกของการทำธุรกิจนั้นต่างจากงานประจำโดยสิ้นเชิง
งานประจำ มีเงินเดือนที่แน่นอนทุกเดือน รวมไปถึงมีโบนัส และสวัสดิการต่าง ๆ ในขณะที่ธุรกิจส่วนตัวไม่มีหลักประกันใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนั้น การทำธุรกิจในช่วงปีแรกมักยังไม่ทำกำไรเพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ ดังนั้นคุณจึงต้องการ กระแสเงินสด จากช่องทางอื่นเพื่อมาหล่อเลี้ยงตัวเองในช่วงกำลังตั้งไข่ธุรกิจส่วนตัว
6.วางแผนการเงินก่อนเริ่มธุรกิจ
ธุรกิจส่วนตัว อาจใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีเพื่อที่จะมีกำไรพอเลี้ยงตัวได้ และอาจใช้เวลา 3 – 5 ปีในการ Scale ไปในระดับที่เริ่มพอกินพอใช้ และ 10 ปีขึ้นไปสู่ความมั่งคั่งจริงจัง ดังนั้นคุณต้องวางแผนการเงินให้ดีก่อนเริ่มธุรกิจจริง และการวางแผนการเงินขั้นพื้นฐานสุด คือ อย่าก่อหนี้ระยะยาว
หนี้ระยะยาว คือ หนี้บ้าน หนี้รถ ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายที่เงินต้องออกจากกระเป๋าทุกเดือน รวมๆแล้วอยู่ที่เดือนละ 20,000-30,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อความยืดหยุ่นในการลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจส่วนตัว

ทั้งหมดที่กล่าวมาด้านบน เป็นเพียงแนวทาง ข้อแนะนำเท่านั้น อย่าเพิ่งเชื่อใคร หรือเชื่ออะไร จนกว่าจะเริ่มลงมือทำด้วยตัวเองเท่านั้น อยากให้ทุกคนประสบความสำ
รับผลิต สกินแคร์ เครื่องสำอาง และอาหารเสริมจากประเทศเกาหลี
HiSeoul Cosmetics โรงงานผลิตสกินแคร์ เครื่องสำอาง และอาหารเสริมจากประเทศเกาหลี โดยเภสัชและนักวิจัยที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ผลิตด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย วัตถุดิบจากประเทศเกาหลีใต้ มีสูตรให้เลือกมากกว่า 100 สูตร ใครอยากผลิตสกินแคร์ อาหารเสริม เครื่องสำอางจากประเทศเกาหลี สร้างแบรนด์สกินแคร์ เครื่องสำอาง อาหารเสริมราคาไม่แพงให้เราดูแลสิคะ
ติดต่อเรา:
LINE : @hiseoulcosmetics
โทร : 062-806-3848
Email : [email protected]
Facebook : https://www.facebook.com/hiseoulcosmetics